บริการสมาชิก
บริการดิจิทัล
แผนการลงทุน
ออมเพิ่ม
ออมต่อ
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก
ศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงิน
ความรู้คู่การออม
ปฏิทินกิจกรรม
วารสาร กบข.
แบบฟอร์มต่างๆ
คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ
หน้าหลัก
ตำแหน่งที่เปิดรับ
กรอกใบสมัคร
สรุปผลการจัดซื้อ-จัดจ้าง
วิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
ประกาศจำหน่ายทรัพย์สิน
MCS Web
แบบฟอร์ม
งาน กบข.
กิจกรรมต่าง ๆ
ภาพบริการสมาชิก

เจาะลึกแผนสมดุลตามอายุ เปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนใหม่






           


                    ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยจำนวนผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และจากสถิติพบว่าอายุเฉลี่ยของคนไทยมีแนวโน้มยืนยาวขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 75 ปี และคาดการณ์ว่าในปี 2568 อายุของคนไทยโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 85 ปี ดังนั้นเมื่อคนเรามีอายุยืนยาวขึ้นก็ต้องใช้ชีวิตหลังเกษียณยาวนานขึ้น อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ค่าครองชีพหรือข้าวของเครื่องใช้ยิ่งมีราคาแพงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยนี้ล้วนส่งผลทำให้เรายิ่งจำเป็นต้องเตรียมเงินสำหรับรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ยืนยาวมากขึ้นนั่นเอง

                    เพื่อรับมือกับสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย กบข. จึงได้มีการทบทวนสมมติฐานการจัดสรรเงินลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Allocation : SAA) ของแผนสมดุลตามอายุในปัจจุบันของ กบข.เปรียบเทียบกับกองทุนบำนาญระดับโลก และทำการวิจัยความเพียงพอของการใช้ชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งเป็นที่มาของการปรับสัดส่วนการลงทุนของแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) โดยมุ่งหวังให้สมาชิกสะสมผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพิ่มโอกาสให้สมาชิกมีเงินเกษียณเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมีคุณภาพตามที่ต้องการ

 

รู้จัก “แผนสมดุลตามอายุ” สัดส่วนใหม่  

          แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) ยังคงใช้หลักการบริหารเงินลงทุน "อายุน้อยเสี่ยงมาก อายุมากเสี่ยงน้อย" เช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของแต่ละช่วงอายุใหม่ ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนถึงอายุ 51 ปี จะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 75% เนื่องจากสมาชิกยังมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานกว่าจะเกษียณ จึงสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในระยะยาว หลังจากนั้นจะทยอยปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงปีละ 6% ตามอายุของสมาชิกที่เพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนการลงทุนหุ้นในช่วงอายุก่อนเกษียณ 59-60 ปี จะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเหลือ 20% เพื่อลดความผันผวนของยอดเงินในบัญชีสมาชิก นอกจากนี้ กบข. ยังคงมีแผนสมดุลตามอายุที่ปรับสัดส่วนใหม่ สำหรับสมาชิกที่เกษียณอายุ 65 ปี และ 70 ปี ให้เลือกตามอายุเกษียณได้ โดยช่วงอายุที่เริ่มลดสัดส่วนหุ้นจะมีความต่างกัน



                    สำหรับแนวทางการจัดสรรเงินลงทุน กบข. ในแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) ใช้แผนการลงทุนเพียง 2 แผน คือ แผนหุ้น 75 และแผนหุ้น 20 ในการจัดสัดส่วนการลงทุนเพื่อให้มีสัดส่วนของ หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์อื่น ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุของสมาชิก ซึ่งแผนหุ้น 75 และแผนหุ้น 20 เป็นแผนการลงทุนที่ไม่ได้เปิดให้สมาชิกเลือก เนื่องจากใช้สำหรับแผนสมดุลตามอายุที่ปรับสัดส่วนใหม่เท่านั้น


ความแตกต่างของแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) กับแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่)

                    แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) นอกจากจะขยายอายุที่เริ่มปรับลดสัดส่วนหุ้น จากเดิมที่เริ่มปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น “เมื่ออายุเกิน 45 ปี ขึ้นไป” เปลี่ยนเป็น “เมื่ออายุเกิน 51 ปี ขึ้นไป” เพื่อให้มีระยะเวลาในการลงทุนในหุ้นสัดส่วนสูงนานมากขึ้น สำหรับสมาชิกที่อายุไม่เกิน 51 ปี หากเลือกแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) เงินของสมาชิกจะลงทุนในหุ้น 75% ซึ่งจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมากกว่าแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) และในช่วงอายุเกิน 51 ปีขึ้นไป จะเริ่มลดสัดส่วนหุ้นลงในอัตราคงที่ และลดลงด้วยอัตราที่น้อยกว่าแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) จึงทำให้โดยรวมของทุกช่วงอายุของสมาชิกจนถึงอายุเกษียณ แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) เงินของสมาชิกจะลงทุนในหุ้นด้วยสัดส่วนที่มากกว่าแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) นั่นเอง

สำหรับสมาชิกที่ปัจจุบันเลือกแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) หากยังไม่เปลี่ยนแผนการลงทุนใดๆ เงินในบัญชีของสมาชิกจะยังคงลงทุนอยู่ในแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) ต่อไปจนกว่าสมาชิกจะเปลี่ยนแผนการลงทุนใหม่ และเมื่อเปลี่ยนแผนการลงทุนใหม่ไม่ว่าจะเป็นแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) หรือเปลี่ยนเป็นแผนการลงทุนใดก็ตามที่ กบข. มีให้เลือก จะไม่สามารถกลับมาเลือกแผนสมดุลตามอายุที่ลงทุนตามสัดส่วนเดิมได้อีก

หากสมาชิกอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) มีอะไรบ้างที่แตกต่างไปจากแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) บทความฉบับนี้ได้สรุปเป็นประเด็นสำคัญมาให้ดูกันในตารางข้างท้ายนี้ พร้อมด้วยเส้นกราฟเปรียบเทียบสัดส่วนการลงทุนในหุ้นระหว่างแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนเดิม) กับแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) ตามแต่ละช่วงอายุ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพื่อตัดสินใจเลือกแผนการลงทุนได้



        
แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) เหมาะกับใคร


                        แผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) เหมาะกับสมาชิกที่เริ่มบรรจุเข้ารับราชการ เนื่องจากมีอายุราชการหรือระยะเวลาลงทุนอีกนานกว่าจะเกษียณ หรือสมาชิกที่มีระยะเวลาในการลงทุนที่ยาวมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป หรือสมาชิกที่สามารถรับความเสี่ยงหรือความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับสูง และต้องการสะสมผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นด้วยสัดส่วนสูงในช่วงที่มีอายุยังไม่มาก และต้องการให้ กบข. ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นโดยอัตโนมัติให้สอดคล้องกับอายุของสมาชิกที่มากขึ้นหรือสอดคล้องกับระยะเวลาลงทุนที่น้อยลง เพื่อลดความผันผวนของเงินลงทุนในช่วงใกล้เกษียณ


                    ข้อควรระวัง สำหรับสมาชิกที่รับความเสี่ยงหรือความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้ในระดับต่ำ หรือ สมาชิกที่อยู่ช่วงวัยใกล้เกษียณที่เหลือเวลาลงทุนไม่มากนัก การเลือกแผนการลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสูงในระยะสั้นและอยู่ในช่วงที่ตลาดลงทุนผันผวนอาจทำให้มีโอกาสเห็นยอดเงินลดลงได้


                    สำหรับสมาชิกที่เพิ่งบรรจุเข้ารับราชการใหม่ และเริ่มเป็นสมาชิก กบข. จะมีสิทธิ์เลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองได้จากแผนทางเลือกการลงทุนหลากหลายที่ กบข. มีให้ กรณีสมาชิกบรรจุใหม่ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป หากไม่ใช้สิทธิ์เลือกแผนการลงทุน กบข. จะกำหนดให้ลงทุนในแผนสมดุลตามอายุ (สัดส่วนใหม่) ไปจนกว่าสมาชิกจะแจ้งเปลี่ยนแผนการลงทุน ทั้งนี้ หากสมาชิกต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถนัดหมายที่ปรึกษาทางการเงินได้ที่ My GPF Application เมนู “นัดหมายปรึกษา” โดยเลือกวันและเวลาทำการที่ท่านสะดวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่โทรติดต่อให้ข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจเลือกแผนการลงทุนด้วยความเข้าใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ