บริการสมาชิก
บริการดิจิทัล
แผนการลงทุน
ออมเพิ่ม
ออมต่อ
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก
ศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงิน
ความรู้คู่การออม
ปฏิทินกิจกรรม
วารสาร กบข.
แบบฟอร์มต่างๆ
คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ
หน้าหลัก
ตำแหน่งที่เปิดรับ
กรอกใบสมัคร
สรุปผลการจัดซื้อ-จัดจ้าง
วิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
ประกาศจำหน่ายทรัพย์สิน
MCS Web
แบบฟอร์ม
งาน กบข.
กิจกรรมต่าง ๆ
ภาพบริการสมาชิก

ตั้งสติ แล้วมาพิชิตหนี้บัตรเครดิตกันเถอะ




           


การใช้จ่ายของใครหลายคนส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการใช้ บัตรเครดิต ซึ่งถือเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้าหรือชำระค่าบริการ แถมยังน่าดึงดูดใจด้วยวิธีการสะสมคะแนนที่สามารถนำไปแลกรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ จนหลายคนอาจเผลอใช้เพลินเกินห้ามใจและกลายเป็นหนี้สินระยะยาวที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแบบไม่รู้จบ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจใช้บัตรเครดิต บทความนี้มีข้อเตือนใจสำคัญและวิธีพิชิตหนี้สำหรับคนอยากปิดหนี้บัตรเครดิตมาฝากกันในฉบับนี้ 


สิ่งแรกต้องรู้ก่อนเลยว่าทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่ใช่การใช้เงินในอนาคต แต่มันหมายความว่าคุณกำลังยืมเงินหรือขอสินเชื่อจากธนาคารหรือผู้ออกบัตร เพื่อชำระค่าซื้อสินค้าหรือใช้บริการตามที่คุณต้องการก่อน แล้วค่อยมาจ่ายชำระหรือผ่อนคืนให้ภายหลัง โดยทางธนาคารหรือผู้ออกบัตรจะมีการกำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน หากชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้จะได้รับยกเว้นดอกเบี้ย แต่หากไม่ชำระคืนเต็มจำนวนที่ใช้ไปตามระยะเวลาที่กำหนดหรือชำระคืนล่าช้าก็อาจโดนค่าปรับและเสียดอกเบี้ยได้ 


สิ่งที่สองสำคัญที่สุดต้องรู้ความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง ในการใช้บัตรเครดิตในแต่ละครั้งยอดใช้จ่ายรวมกันแล้วต้องไม่เกินไปกว่ารายได้ ดันั้นจึงควรตั้งงบประมาณและวางแผนการใช้จ่ายให้ดี โดยเอารายได้ประจำที่มีทั้งเดือนหักด้วยค่าใช้จ่ายประจำและหนี้สินอื่นๆ แล้วดูว่าคุณยังพอมีเงินเหลือต่อเดือนมากน้อยแค่ไหน เพียงพอต่อการจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตหรือไม่ จำกัดงบประมาณในการใช้ต่อเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถชำระเงินตามระยะเวลาที่กำหนดได้ทัน  


สิ่งที่าม…บตรเครดิตมีค่าธรรมเนียม บัตรเครดิตแต่ละใบจะมีอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บและวันที่คิดดอกเบี้ยต่างกันและยังแฝงไปด้วยค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรรายปี ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรต่อครั้ง (ร้านค้า) ค่าธรรมเนียมการจ่ายเกินกำหนดชำระ และดอกเบี้ยหากไม่ชำระคืนเต็มจำนวนให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดหรือเลือกชำระแค่ขั้นต่ำในทุกเดือน คุณอาจต้องจ่ายค่ารมเนียมต่างๆ เหล่านี้และเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงควรระวังไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายเหล่านี้มากจนเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมจนยอดหนี้พอกพูนขึ้นได้  

  

มาถึงตรงนี้สำหรับใครที่มีบัตรเครดิตหลายใบและเผลอใช้เพลินจนเกินวงเงิน แล้วต้องตกอยู่ในสถานะการเงินฝืเคือง แม้ว่าจะหมุนบัตรนั้นมาโปะบัตรนี้แล้วก็ยังมียอดหนี้ค้างสะสมจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ในที่สุด อย่าเพิ่งท้อใจไปลองมาอ่านเทคนิคพิชิตหนี้บัตรเครดิตด้วยตัวเองกันสักหน่อย แล้วค่อยๆ ทำตามแบบ Step by Step แล้วคุณจะรู้ว่าทุกปัญหามีทางออก และอาจไม่ได้ยากอย่างที่คิด  

 

เริ่มปฏิบัติการพิชิตหนี้บัตรเครดิต 

1. เขียนลิสต์รายการหนี้ ต้องหยุดใช้บัตรเครดิตทันที และลองทบทวนทำความเข้าใจหนี้ทั้งหมดที่มีว่ามีอะไรบ้าง เขียนลิสต์รายการออกมาดูว่ายอดหนี้ในบัตรแต่ละใบมียอดค้างชำระเท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ และจำนวนที่ต้องจ่ายในแต่ละงวดเท่าไร การทำเช่นนี้จะช่วยให้เห็นภาพหนี้ทั้งหมดที่มีได้ชัดเจนและช่วยวางแผนการชำระหนี้ให้ง่ายขึ้น  


2. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและลงมือทำตามแผนที่วางไว้ เมื่อรู้จำนวนหนี้ที่มีแล้ว ขั้นตอนต่อไปควรลองดูว่ามีหนี้บัตรเครดิตตัวไหนที่ยังต้องชำระอยู่หรือหนี้ตัวไหนที่พอจะปิดได้บ้าง แล้วกำหนดเป้าหมายในการชำระหนี้ให้ชัดเจน เช่น กำหนดจำนวนเงินในการโปะชำระหนี้เพิ่มในแต่ละเดือน เลือกปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน หรือเลือกปิดหนี้ก้อนเล็กๆ ก่อน เป็นต้น แล้วอย่าลืมกำหนดวันและระยะเวลาในการปิดหนี้ โดยพิจารณาดูว่าจะใช้เงินที่เก็บไว้หรือจัดหาเงินจากแหล่งอื่น มาชำระหนี้ของคุณให้ได้ตามระยะเวลาที่วางแผนไว้ได้อย่างไร สำหรับใครที่ยังผ่อนจ่ายไหว การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจมากขึ้น เพราะในการปิดหนี้ต้องอาศัยทั้งความอดทนและระยะเวลา 


3. ติดต่อผู้ให้บริการบัตรเครดิต การปิดหนี้บัตรเครดิตจะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารการเงินของคุณเป็นสำคัญ หากลองพยายามลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงแล้ ยังไม่มีเงินเหลือเพียงพอที่จะชำระหนี้ตามแผนที่วางไว้ได้ ทางออกที่ดีที่สุดแนะนำให้รีบติดต่อธนาคารหรือผู้ออกบัตรเพื่อเจรจาขอข้อเสนอพิเศษเพื่อป้องกันการผิดนัดชำระก่อนเป็นหนี้เสีย เช่น ารรวมหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้ เป็นต้น การเปลี่ยนเงื่อนไขในการจ่ายหนี้จะช่วยช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ประหยัดดอกเบี้ย และช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คุได้ดีกว่าปล่อยให้เป็นหนี้เสียจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น 

สำหรับใครที่เป็นหนี้จนเสียประวัติข้อมูลเครดิตไปแล้ว อันนี้ต้องตั้งสติให้ดีอย่ามัวแต่เครียดไป เพราะทุกย่อมมีทางออกเสมอ และควรรับสายจากเจ้าหน้าธนาคารผู้ออกบัตรที่โทรมาติดตามทวงถามการชำระหนี้ทุกครั้ง โดยแจ้งเหตุผลตามตรงว่าถึงปัญหาการชำระหนี้ เพราะธนาคารอาจมีข้อเสนอให้คุณทำการประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ให้อยู่ในระดับที่คุณสามารถชำระไหว ซึ่งการหลีกหนีด้วยการไม่รับสายเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้นจะส่งผลทำให้ธนาคารดำเนินการส่งเรื่องฟ้องศาลซึ่งก็จะเพิ่มความยุ่งยากในขั้นตอนต่อไปได้ แต่สำหรับใครที่โดนฟ้องจนได้รับหมายศาลแล้ว ก็ขอแนะนำว่าคุณควรไปศาลตามหมายนัด เพราะการขึ้นศาลถือเป็นโอกาสในขอเจรจาประนีประนอมการจ่ายหนี้โดยมีศาลเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยระหว่างคุณกับเจ้าหนี้ ในขั้นตอนนี้คุณอาจต่อรองขอผ่อนชำระเป็นงวด โดยระบุจำนวนงวดที่จะชำรหรือขอให้หยุดดอกเบี้ยระหว่างการชำระหนี้ รวมถึงสามารถต่อรองค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ และหากคุณไม่สามารถไปตามหมาเรียกได้ให้ส่งเหตุผลไปขอเลื่อนนัด เพื่อรอนัดหมายครั้งต่อไป 


4. ติดตามตรวจสถานะการปิดหนี้ เมื่อคุณได้จ่ายชำระหนี้หมดแล้ว ควติดตาและตรวจสอบสถานะการปิดหนี้ของคุณว่าเรียบร้อยแล้วหรือไม่ รวมถึงแก้ไขปรับปรุงสถานะหนี้ให้กลับมาเป็นปกติด้วย หลังจากปิดบัตรเครดิตใบใดใบหนึ่งได้แล้ว คุณอาจลองพิจารณาดูว่าเงินที่เหลือจากการจ่ายหนี้สามารถนำไปปิดหนี้บัตรอื่น ได้อีกอย่างไร หรือว่าจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้เป็นเงินออมหรือลงทุนต่อไป ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมวางแผนการเงิน และปรับนิสัยการใช้เงินควบคู่ไปกับการใช้บัตรเครของคุณให้ดี เพื่อไม่ให้ต้องตกอยู่ในวังวนหนี้อีกครั้ง 


ทั้งหมดนี้เป็นทคนิคที่จะช่วยให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้ง่ายและเร็วขึ้น แล้วมาเริ่มต้นใหม่สู่อนาคตการเงินที่สดใสกันเถอะ!!